บทนำ

เมื่อลูกป่วยเป็น “มือเท้าปาก” (Hand, Foot and Mouth Disease) หรือ “เฮอร์แปงไจน่า” ผู้ปกครองมักมี “คำถาม” มากมายที่อยากได้คำตอบชัด ๆ บทความนี้จึงรวบรวม “Q&A ยอดฮิต” ที่มักพบในคลินิกหรือร้านยา พร้อมคำตอบสั้นกระชับ เข้าใจง่าย และแทรกคำแนะนำการใช้ Eureko Mouth Spray เพื่อบรรเทาอาการแผลในปาก รวมถึง Eureko Fructo เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและลดปัญหาท้องผูก

1) Q: “มือเท้าปาก” กับ “เฮอร์แปงไจน่า” ต่างกันอย่างไร?

A:

• มือเท้าปาก: มักมีตุ่มน้ำที่มือ ฝ่าเท้า และรอบปาก พร้อมแผลในปาก
• เฮอร์แปงไจน่า: ไข้สูงรวดเร็ว แผลลึกในลำคอ/เพดานปาก เด็กมักเจ็บคอหนัก กลืนลำบาก
• ทั้งสองโรคติดต่อคล้ายกัน (ไวรัสกลุ่ม Enterovirus) และดูแลพื้นฐานคล้ายกัน

(อ่านแยกใน “ทำไมลูกเจ็บปากน้ำลายยืดไม่หยุด…” หรือ “สัญญาณอันตรายเมื่อลูกเป็นเฮอร์แปงไจน่า…”)

2) Q: ลูกจะกลับไปโรงเรียนได้เมื่อไร?

A:

• ส่วนใหญ่ควรรอจน “ไม่มีไข้ 24 ชั่วโมง” และตุ่มน้ำหรือแผลแห้งสนิท (ประมาณ 5-7 วัน)
• หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์หรือแจ้งโรงเรียนก่อน

3) Q: ทำไมต้องใช้ “Eureko Mouth Spray”? ใช้ยาชาแทนได้ไหม?

A:

• Eureko Mouth Spray เป็น Medical Device ใช้โพลีเมอร์เคลือบแผลในปาก ลดการเจ็บแบบไม่ต้องใช้ยา
• ไม่มียาชา แอลกอฮอล์ หรือสเตียรอยด์ เด็กเล็กตั้งแต่ 3 เดือนใช้ได้
• ยาชา (เช่น Lidocaine) บางทีมีรสขมหรือผลข้างเคียง เด็กอาจกลืนยาเกินขนาดได้

(เทียบรายละเอียดใน “ไขข้อข้องใจ ยาชาแบบทา VS สเปรย์พ่นปากยูเรโกะ…”)

4) Q: ควรทำอย่างไรถ้าลูกไม่กินอะไรเลย? กลัวขาดน้ำ

A:

1. ใช้ Eureko Mouth Spray พ่นปากก่อนมื้ออาหาร 10-15 นาที
2. เลือกอาหารอ่อน เย็น หรือกึ่งของเหลว เช่น โจ๊กเย็น ไอศกรีมนม โยเกิร์ต
3. จิบน้ำหรือน้ำเกลือแร่ (ORS) บ่อย ๆ
4. ถ้าลูกกินน้อยจนซึมหรือปัสสาวะน้อย ควรปรึกษาแพทย์

5) Q: จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสไหม?

A:

• ไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ สำหรับมือเท้าปากหรือเฮอร์แปงไจน่าส่วนใหญ่
• ยาปฏิชีวนะไม่ช่วยเพราะโรคนี้เกิดจากไวรัส
• การรักษาจะเป็นการดูแลตามอาการ (เช่น ยาลดไข้ พ่นปากด้วยสเปรย์) และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน

6) Q: มือเท้าปากหายแล้ว จะเป็นซ้ำได้ไหม?

A:

• มีโอกาสเป็นซ้ำ ได้ เพราะไวรัสมือเท้าปากมีหลายสายพันธุ์ เด็กอาจเคยเป็น Coxsackie A16 แต่ไปติด Enterovirus 71 ได้อีก
• ป้องกันโดยล้างมือสะอาด ทำความสะอาดของเล่นสม่ำเสมอ

7) Q: ท้องผูกมากตอนป่วย ทำไงดี?

A:

• เด็กมักกินผักผลไม้ได้น้อยตอนเจ็บปาก น้ำก็ไม่พอ จึงท้องผูก
• Eureko Fructo พรีไบโอติก FOS ช่วยเพิ่มใยอาหารให้ลำไส้ ลดปัญหาขับถ่าย
• ผสมน้ำหรืออาหารเย็นวันละครั้ง สังเกตอาการ

(อ่านเพิ่มเติม “จัดการท้องผูกเมื่อเป็นมือเท้าปาก…”)

8) Q: เด็กโต 10 ขวบ ยังติดมือเท้าปากหรือเฮอร์แปงไจน่าได้ไหม?

A:

• ได้ โดยเฉพาะถ้าไม่เคยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นั้นมาก่อน แต่อาการมักเบากว่าเด็กเล็ก (หรือบางรายอาจรุนแรงก็ได้)
• ดูแลตามอาการเหมือนกัน (ลดไข้, พักผ่อน, พ่นสเปรย์ปากถ้าเจ็บมาก)

(อ่าน “มือเท้าปากกับเด็กโต 6-10 ขวบ…”)

9) Q: ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุติดลูกได้หรือไม่?

A:

• • ได้ โดยเฉพาะคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำหรือไม่เคยเป็นมาก่อน
  • หากติดแล้วอาจรุนแรงในผู้สูงอายุ ควรระวังล้างมือบ่อย ๆ แยกของใช้

• (ดู “มือเท้าปากในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ”)

10) Q: ควรให้ลูกกินวิตามินเสริมหรือไม่?

A:

• ไม่มีกฎตายตัว หากลูกกินอาหารครบหมู่อาจไม่จำเป็น
• ถ้าลูกกินได้น้อย หมออาจแนะนำวิตามินรวม หรือเสริมพรีไบโอติก (Eureko Fructo) เพื่อปรับลำไส้และภูมิคุ้มกัน

11) Q: ใช้ “น้ำเกลือแร่ (ORS)” ต่างจาก “Eureko Fructo” อย่างไร?

A:

• ORS (เกลือแร่ชนิดซอง) ทดแทนเกลือแร่และน้ำเมื่อเด็กมีไข้หรืออาเจียน ช่วยแก้ภาวะขาดน้ำ
• Eureko Fructo เสริมใยอาหาร (FOS) สำหรับปรับสมดุลลำไส้ ป้องกันท้องผูกและเสริมภูมิคุ้มกัน
• สามารถใช้ควบคู่ได้ ไม่ซ้ำหน้าที่กัน

 

• • หากต้องการเทคนิคป้องกันไม่ให้ติดซ้ำ อ่าน “ล้างของเล่น-อุปกรณ์ลูก…”
  • ดูรายละเอียดอาหารเย็นปาก อ่าน “รวมเมนูอาหารเย็นชื่นใจ…”

อ่านภาพรวมมือเท้าปาก/เฮอร์แปงไจน่า และข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน ลูกเป็นมือเท้าปาก! ทำยังไงดี? วิธีดูแล + ตัวช่วยลดเจ็บปากแบบเห็นผล

สรุป

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ “มือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่า” มักจะวนเวียนอยู่ที่ระยะเวลาหยุดเรียน, วิธีบรรเทาแผลในปาก, การป้องกันติดซ้ำ และการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสม คีย์เวิร์ดสำคัญคือ “ดูแลตามอาการ” (ลดไข้, ลดเจ็บปากด้วย Eureko Mouth Spray), “ล้างมือบ่อย ๆ” และ “ทำความสะอาดของเล่น-พื้นผิว” สม่ำเสมอ ถ้าเด็กท้องผูกหรือกินน้อย สามารถเสริม Eureko Fructo พรีไบโอติก เพื่อปรับสมดุลลำไส้

เข้าใจหลักการเหล่านี้แล้ว จะช่วยให้ผู้ปกครองรับมือ HFMD หรือ Herpangina ได้มั่นใจ และเด็กก็ฟื้นตัวเร็ว ไม่ตกหล่นด้านโภชนาการหรือเสี่ยงต่ออาการรุนแรงค่ะ