บทนำ
โรค “มือเท้าปาก” (HFMD) และ “เฮอร์แปงไจน่า” แพร่เชื้อได้ง่ายผ่านสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ และอาจติดบน “ของเล่นเด็ก” พื้นผิวหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมง หากทำความสะอาดไม่เหมาะสมอาจเกิด “ติดเชื้อซ้ำ” หรือแพร่เชื้อให้คนในบ้าน บทความนี้จะเสนอ “วิธีล้างของเล่นและอุปกรณ์ลูก” อย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการกลับมาเป็นรอบสอง หรือแพร่ไปยังพี่น้องคนอื่น ตลอดจนเชื่อมโยงกับการดูแลแผลในปากด้วย Eureko Mouth Spray สำหรับเด็กที่ยังไม่หายสนิท
1) ทำไมการทำความสะอาดของเล่นจึงสำคัญ?
1.1 ไวรัส HFMD และเฮอร์แปงไจน่า อยู่บนพื้นผิวได้นาน
- เชื้อ Coxsackie A16, EV71 หรือไวรัสกลุ่ม Enterovirus สามารถอยู่บนพื้นผิวและของเล่นนานหลายชั่วโมงถึงหลายวันในสภาพอุณหภูมิห้อง
1.2 เด็กเล็กชอบหยิบของเล่นเข้าปาก
- ทำให้ไวรัสที่ตกค้างบนของเล่นเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่าย
2) ขั้นตอนการล้างของเล่น / อุปกรณ์
2.1 แยกของเล่นตามประเภท
- ของเล่นพลาสติกแข็ง (บล็อก, ตัวต่อ, ตุ๊กตาพลาสติก)
- ของเล่นผ้า (ตุ๊กตาผ้า, หมอนผ้า)
- ของเล่นไม้ (ต้องระวังไม่ให้แช่น้ำนาน)
- อุปกรณ์เด็กอ่อน (ขวดนม, จุกหลอก ฯลฯ)
2.2 ทำความสะอาดเบื้องต้น
- ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ
- สำหรับพลาสติกแข็ง
- ขัดเบา ๆ แล้วล้างน้ำสะอาด
- ซักในเครื่องซักผ้า
- ของเล่นผ้า หรือผ้าห่มเด็ก ใส่น้ำยาซักผ้าเด็ก ฆ่าเชื้อ
- ตากแดดจนแห้งสนิท
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด
- ของเล่นไม้ หรืออุปกรณ์ที่ไม่ควรจุ่มน้ำ
- เช็ดด้วยผ้าชุบสบู่อ่อน แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
2.3 ฆ่าเชื้อเพิ่ม
- สำหรับบ้านที่ลูกเพิ่งหายจากมือเท้าปากหรือเฮอร์แปงไจน่า ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ (เช่น สารละลายไฮโปคลอไรท์เจือจาง 1:100) เช็ดปิดท้าย
- ปล่อยให้แห้งสนิทก่อนเก็บ
(อ่านเพิ่มเติมการป้องกันในห้องเรียน “ดูแลสุขอนามัยช่วงระบาด..”)
3) ความถี่ในการล้างของเล่น
- ช่วงที่ลูกกำลังป่วย ควรทำความสะอาดของเล่นหรืออุปกรณ์ที่ลูกสัมผัส ทุกวัน
- หลังลูกหายดี ควรล้างครั้งใหญ่สัก 1 รอบ เพื่อมั่นใจว่าเชื้อไม่ตกค้าง
- ถ้าเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม ควรซักสัปดาห์ละครั้ง (หรือบ่อยขึ้นเมื่อป่วย)
4) การดูแลสุขอนามัยอื่น ๆ
4.1 ล้างมือพ่อแม่และเด็ก
- ก่อน-หลังเล่นของเล่น ก่อนกินข้าว หลังเข้าห้องน้ำ
- ใช้สบู่ถู 20 วินาที
4.2 ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน
- แก้วน้ำ ช้อนส้อม ผ้าขนหนู แยกเฉพาะคนป่วย
4.3 ระวังละอองไอจาม
- ถ้าลูกยังไอหรือจาม ควรสอนให้ใช้ทิชชู่ปิดปากจมูกเสมอ ทิ้งในถังขยะมีฝาปิด
5) ถ้าลูกยังไม่หายสนิท: บทบาทของ Eureko Mouth Spray
- บางครั้งลูกหยุดแพร่เชื้อ แต่ยังมีแผลในปากซึ่งกินเจ็บอยู่เล็กน้อย
- ก่อนมื้ออาหาร ให้พ่น Eureko Mouth Spray เพื่อเคลือบแผล ลดการระคายเคือง
- ควรเช็ดยันต์กันเชื้อในบ้านด้วยการทำความสะอาดพื้นผิวอื่น ๆ อาทิ ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ เช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อ
6) ตัวอย่างเคส “น้องตั้ม หาย HFMD แต่พี่สาว 7 ขวบไม่ติด”
- สถานการณ์: น้องตั้มเป็นมือเท้าปาก พัก 7 วัน จนตุ่มแห้ง แผลปากดีขึ้น 80%
- แม่ทำความสะอาด:
- ของเล่นพลาสติกทุกชิ้น (บล็อก, หุ่นยนต์) ด้วยน้ำยาล้างจานแล้วเช็ดด้วยน้ำยาไฮโปคลอไรท์
- ผ้าห่ม ตุ๊กตาผ้า เอาไปซักเครื่องน้ำร้อน 60°C
- เช็ดพื้นบ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อวันละครั้ง
- ผลลัพธ์: พี่สาววัย 7 ขวบไม่ติดเชื้อ แม้จะอยู่ในบ้านเดียวกัน
-
- ถ้าต้องการป้องกันห้องเรียน อ่าน “ดูแลสุขอนามัยช่วงระบาด…”
- หากลูกยังมีท้องผูกหลังป่วย ดู “จัดการท้องผูกเมื่อเป็นมือเท้าปาก…”
อ่านรายละเอียดการใช้ Eureko Mouth Spray ใน ลูกเป็นมือเท้าปาก! ทำยังไงดี? วิธีดูแล + ตัวช่วยลดเจ็บปากแบบเห็นผล
สรุป
“การล้างของเล่นและอุปกรณ์” ของลูกอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกัน “เชื้อ HFMD และเฮอร์แปงไจน่า” ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำหรือแพร่ไปยังสมาชิกครอบครัวคนอื่น ควรแยกประเภทของเล่น ใช้วิธีทำความสะอาดที่เหมาะสมกับแต่ละวัสดุ และฆ่าเชื้อด้วยสารละลายไฮโปคลอไรท์เจือจาง โดยเฉพาะช่วงลูกเพิ่งหายป่วย
อย่าลืมเสริมสุขอนามัยอื่น ๆ เช่น ล้างมือ แยกภาชนะ และดูแลแผลในปากที่ยังหลงเหลือด้วย Eureko Mouth Spray หากเด็กยังมีอาการเจ็บ บริหารจัดการให้ครบทุกมิติ เพียงเท่านี้ก็มั่นใจได้ว่าบ้านจะปลอดเชื้อรอบสอง และทุกคนสบายใจมากขึ้นค่ะ