ยาแก้แผลในปากและลิ้น: รวมยารักษาแผลในปากยอดนิยม พร้อมวิธีเลือกใช้ให้ถูกต้อง

แผลในปาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย สร้างความรำคาญ และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การพูดคุย หรือแม้แต่การแปรงฟัน แต่รู้หรือไม่ว่า สาเหตุของแผลในปากในผู้ใหญ่และเด็กนั้นแตกต่างกัน

ในผู้ใหญ่ แผลในปากมักไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่บ่อยครั้งเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกาย ที่บอกให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เช่น

• การนอนน้อย: นอกจากจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง การนอนน้อยยังส่งผลต่อการผลิตน้ำลาย ทำให้ปากแห้ง และเสี่ยงต่อการเกิดแผลในปากได้ง่ายขึ้น
• การขาดวิตามิน: วิตามินบี และ วิตามินซี เป็นวิตามินที่สำคัญต่อสุขภาพช่องปาก วิตามินบี ช่วยบำรุงเยื่อบุในช่องปาก ส่วนวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเหงือก การขาดวิตามินเหล่านี้อาจทำให้เกิดแผลในปาก เลือดออกตามไรฟัน และเหงือกอักเสบได้
• การดื่มน้ำน้อย: การดื่มน้ำน้อย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้การผลิตน้ำลายลดลง ปากแห้ง และเกิดแผลในปากได้ง่าย นอกจากนี้ น้ำลายยังช่วยลดกรดในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ และ โรคเหงือก
• ความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อทุกส่วนในร่างกาย แม้แต่ระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายรวมถึงแผลในปากด้วย นอกจากนี้ ความเครียดยังอาจทำให้เกิดพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก เช่น การนอนกัดฟัน หรือทำให้สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น

ส่วนในเด็ก แผลในปาก มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น

• โรคมือ เท้า ปาก: เกิดจากเชื้อไวรัส Coxsackievirus A16 และ Enterovirus 71 ทำให้เกิดแผลในปาก และ ตุ่มน้ำ ที่มือ เท้า และ ก้น
• เฮอร์แปงไจน่า: เกิดจากเชื้อไวรัส Coxsackievirus เช่นเดียวกับโรคมือ เท้า ปาก แต่อาการจะรุนแรงน้อยกว่า มักมีไข้สูง เจ็บคอ และ มีแผลในปาก

“ยาแก้แผลในปากและลิ้น” เป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ช่วยบรรเทาอาการ และ เร่งการรักษา ให้แผลหายเร็วขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับยารักษาแผลในปากยอดนิยม พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ยาให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ประเภทของยาแก้แผลในปากและลิ้น

1. ยาชาเฉพาะที่:

• กลไกการออกฤทธิ์: ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการส่งสัญญาณประสาท ทำให้รู้สึกชา และลดอาการปวด แสบ บริเวณที่ทายา
• ข้อดี: บรรเทาอาการปวดได้รวดเร็ว
• ข้อเสีย: 
  • รสชาติไม่อร่อย เด็กไม่ชอบ ไม่ให้ความร่วมมือในการป้าย
  • ทำให้รสชาติอาหารและนมเปลี่ยน
  • ทำให้แค่ชาเวลากินอาหารจะเจ็บอยู่ดี
• ตัวอย่างยา: Benzocaine, Lidocaine

2. ยาฆ่าเชื้อ:

• กลไกการออกฤทธิ์: ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือ ทำให้แผลหายช้า
• ข้อดี: ช่วยลดการอักเสบ และ ป้องกันการติดเชื้อ (ในกรณีที่แผลเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย)
• ข้อเสีย: 
  • อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือ แพ้ยาได้ ในบางราย
  • Povidone-iodine เป็น antiseptic แต่แผลในปากไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ดังนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเกี่ยวกับการรักษาแผลในปาก
  • รสชาติไม่อร่อยทำให้เด็กไม่ชอบใช้
  • ไม่เหมาะพ่นกับเด็กที่เป็นโรคมือ เท้า ปาก เพราะแผลกระจาย ทำให้พ่นหลายครั้ง
• ตัวอย่างยา: Povidone-iodine, Chlorhexidine

3. ยา Steroid (สเตียรอยด์):

• กลไกการออกฤทธิ์: ลดการอักเสบ บรรเทาอาการปวด บวม แดง
• ข้อดี: ช่วยลดอาการอักเสบ และ บรรเทาอาการปวดได้
• ข้อเสีย: 
  • ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ติดเชื้อรา
  • แปะไม่อยู่หลุดง่าย กินอะไรก็หลุด
  • ไม่เหมาะใช้ในเด็ก
• ตัวอย่างยา: Triamcinolone acetonide

4. ยาพ่นแผลในปาก:

• กลไกการออกฤทธิ์: เคลือบแผล ป้องกันการสัมผัส และ ลดการระคายเคือง
• ข้อดี: 
  • เห็นผลลัพธ์ในการพ่นครั้งแรก
  • กินอาหารได้โดยเจ็บน้อยลง
  • ปลอดภัย ไม่มีส่วนประกอบของยา
• ข้อเสีย: 
  • ไม่มีส่วนประกอบของยาทุกชนิดจึงไม่ได้ช่วยรักษา
  • ไม่เหมาะกับการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในช่องปาก
• ตัวอย่างยา: ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก

วิธีเลือกใช้ยาแก้แผลในปากและลิ้น

• ชนิดของแผล: แผลร้อนใน มักใช้ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก ยาชา หรือ ยา Steroid ส่วนแผลเปื่อย อาจใช้ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย
• ความรุนแรงของอาการ: หากมีอาการปวดมาก อาจใช้ยาชา หรือยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก
• อายุ: ควรเลือกยาที่เหมาะสมกับช่วงวัย เช่น ทารก เด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่
• การแพ้ยา: ต้องซักประวัติการแพ้ยา
• ปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร ก่อนใช้ยา

ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก: นวัตกรรมบรรเทาอาการเจ็บแผลในปาก

วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาและไม่มีส่วนประกอบของยาทุกชนิด แต่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลในปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สเปรย์พ่นปากยูเรโกะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยป้องกันการระคายเคืองแผลในปากโดยตรง

คุณสมบัติเด่นของสเปรย์พ่นปากยูเรโกะ

• เคลือบแผลในปาก: สเปรย์พ่นปากยูเรโกะมีโพลีเมอร์ที่ละลายในน้ำบริสุทธิ์ที่เมื่อพ่นจะสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบแผลในปาก ทำให้แผลไม่สัมผัสกับอาหาร น้ำ หรือสิ่งกระตุ้นอื่นๆ ที่ทำให้น้องเจ็บปาก ทำให้เด็กสามารถทานอาหารได้ตามปกติ
• ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลใน 1 นาที: ผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลในปากได้ทันทีเมื่อใช้ ทำให้เด็กสามารถทานอาหารและดื่มน้ำได้สบายขึ้นภายในเวลาอันสั้น
• ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ และยาทุกชนิด: สเปรย์พ่นปากยูเรโกะ ปลอดภัยใช้ได้กับเด็กทารกตั้งแต่ 3 เดือนเป็นต้นไป กินได้ เป็น food grade
• ไม่เปลี่ยนรสชาติของอาหารและเครื่องดื่ม: เมื่อใช้สเปรย์พ่นปากยูเรโกะ เด็กจะไม่รู้สึกว่ารสชาติของอาหารและเครื่องดื่มเปลี่ยนไป กินได้อร่อยเหมือนเดิม
• รสหวานและกลิ่นพีช: น้องชอบให้ความร่วมมือในการพ่นได้ดี

การฟื้นตัวของร่างกายด้วยอาหารที่เหมาะสม

อาหาร มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นตัวของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย การบาดเจ็บ หรือ การออกกำลังกายอย่างหนัก การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และ เพียงพอ จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ เร่งกระบวนการฟื้นฟู ให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง มีพลัง และ พร้อมสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

สารอาหารสำคัญ สำหรับการฟื้นตัวของร่างกาย

• โปรตีน: เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ เนื้อเยื่อ และ อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โปรตีนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างกล้ามเนื้อ และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว เต้าหู้
• คาร์โบไฮเดรต: เป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย คาร์โบไฮเดรตช่วยให้ร่างกายมีแรง และ พลังงาน ในการทำกิจกรรมต่างๆ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง ขนมปัง ธัญพืช
• ไขมัน: เป็นแหล่งพลังงานสำรอง และ ช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิด ควรเลือกไขมันที่ดี เช่น ไขมันไม่อิ่มตัว จาก ปลา อะโวคาโด ถั่ว
• วิตามิน และ แร่ธาตุ: มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท ระบบย่อยอาหาร แหล่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน และ แร่ธาตุ ได้แก่ ผัก ผลไม้
• น้ำ: เป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ช่วยขนส่งสารอาหาร และ ของเสีย ออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำสะอาด ให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

อาหาร ที่ช่วยในการฟื้นตัวของร่างกาย

• อาหารประเภทโปรตีน: เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ นม เต้าหู้
• อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต: เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต
• ผัก และ ผลไม้: เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
• อาหารหมักดอง: เช่น โยเกิร์ต กิมจิ
• น้ำผึ้ง: มีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และ ช่วยสมานแผล

เคล็ดลับ ในการรับประทานอาหาร เพื่อการฟื้นตัวของร่างกาย

• รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม
• เน้นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ
• หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารทอด และ อาหารที่มีน้ำตาลสูง
• ดื่มน้ำสะอาด ให้เพียงพอ
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การฟื้นตัวของร่างกาย เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา การรับประทานอาหารที่เหมาะสม ควบคู่กับการดูแลตัวเอง จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และ กลับมาแข็งแรง มีพลัง อีกครั้ง

🛒 สั่งซื้อ ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก และ Immunex FOS ได้ที่: 📱 Line: @genkihouses

 📕 ดาวน์โหลด E-book คู่มือการดูแลลูกเป็นมือ เท้า ปาก ฟรีได้เลยที่ 👉 https://t.ly/j8ttu