บรรเทาอาการเจ็บแผลในปากจากโรคมือ เท้า ปาก: เคล็ดลับสู่การดูแลลูกน้อยอย่างมีประสิทธิภาพ

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งนอกจากไข้และผื่นตามร่างกายแล้ว อาการที่สร้างความทรมานให้กับลูกน้อยมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “แผลในปาก” แผลเหล่านี้อาจทำให้ลูกรู้สึกเจ็บ แสบ และส่งผลต่อการรับประทานอาหาร การดื่มน้ำ รวมถึงการพูดคุย โดยทั่วไปแล้วแผลในปากจากโรคมือ เท้า ปาก จะหายไปเองภายใน 7-10 วัน แต่ในระหว่างนั้น การดูแลและบรรเทาอาการเจ็บแผลในปากจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม

ยาชา: บรรเทาอาการเจ็บแบบชั่วคราว

ยาชาเฉพาะที่มักถูกนำมาใช้เพื่อลดอาการเจ็บแผลในปาก โดยยาชาจะออกฤทธิ์ทำให้บริเวณที่ทาชา ลดอาการปวด แสบ คัน และช่วยให้เด็กๆ รับประทานอาหารได้สะดวกขึ้น ยาชาเฉพาะที่สำหรับแผลในปากมีหลายรูปแบบ เช่น

• แบบเจล: ทาเคลือบบนแผลได้ง่าย
• แบบสเปรย์: ใช้งานสะดวก พ่นเข้าปากได้โดยตรง
• แบบน้ำ: ใช้บ้วนปาก

ข้อควรระวังในการใช้ยาชา:

• การแพ้ยา: ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทายา少量ในบริเวณเล็กๆ และสังเกตอาการ
• ผลข้างเคียง: อาจทำให้เกิดอาการชา ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด
• ความถี่ในการใช้: ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกร

อย่างไรก็ตาม ยาชาให้ผลเพียงชั่วคราว เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ อาการเจ็บจะกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ยาชาบางชนิดอาจมีรสชาติที่เด็กๆ ไม่ชอบ และอาจส่งผลต่อการรับรสชาติอาหาร ทำให้เด็กๆ เบื่ออาหาร และรับประทานอาหารได้น้อยลง

ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก: ทางเลือกใหม่ หายเจ็บ กินข้าวได้ ร่างกายฟื้นฟู

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา แต่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลในปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการเคลือบแผลในปาก ป้องกันการสัมผัสกับอาหาร น้ำ หรือสิ่งระคายเคืองต่างๆ ลดอาการเจ็บ แสบ และช่วยให้เด็กๆ รับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น

หายเจ็บตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้:

ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลลัพธ์ในการบรรเทาอาการปวดภายใน 1 นาที ลูกน้อยจะรู้สึกหายเจ็บ และสามารถกลับมารับประทานอาหารได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

กินข้าวได้ ร่างกายฟื้นฟู:

เมื่อลูกน้อยสามารถรับประทานอาหารได้ ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟู เช่น โปรตีน จาก เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ นม ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายจากเชื้อไวรัส เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ลูกน้อยแข็งแรง หายจากโรคได้เร็วขึ้น

กลไกการออกฤทธิ์:

ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก ประกอบด้วย โพลิเมอร์ชีวภาพ ที่สามารถละลายน้ำได้ เมื่อพ่นลงบนแผลในปาก โพลิเมอร์จะสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบแผล ป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสกับอาหาร เครื่องดื่ม หรือน้ำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเจ็บ แสบ

ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ:

• สารสกัดจากธรรมชาติ: เช่น สารสกัดจากชาเขียว ว่านหางจระเข้ ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ลดอาการระคายเคือง และช่วยสมานแผล

ข้อดีของ ยูเรโกะ สเปรย์พ่นปาก:

• ออกฤทธิ์เร็ว: เห็นผลลัพธ์ในการบรรเทาอาการปวดภายใน 1 นาที
• ปลอดภัย: ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำตาล และยา สามารถใช้ได้กับเด็กทารก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
• รสชาติอร่อย: มีรสชาติที่เด็กๆ ชื่นชอบ เช่น รสผลไม้
• ใช้งานง่าย: พกพาสะดวก สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
• ไม่ส่งผลต่อรสชาติอาหาร: ไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยน เด็กๆ จึงรับประทานอาหารได้ ngon miệng

อาหารอ่อนๆ: เพื่อนแท้ของแผลในปาก

การเลือกรับประทานอาหารก็มีส่วนสำคัญในการบรรเทาอาการเจ็บแผลในปาก อาหารที่เหมาะสมควรมีลักษณะอ่อนนุ่ม ย่อยง่าย ไม่ระคายเคืองแผล เช่น:

• โจ๊ก: เป็นอาหารที่ย่อยง่าย มีเนื้อสัมผัสละเอียด ไม่ทำให้ระคายเคืองแผล อาจเติมเนื้อสัตว์ เช่น หมูสับ ไก่สับ ที่สับละเอียด หรือ ไข่ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
• ข้าวต้ม: ควรเลือกข้าวที่นิ่ม และหลีกเลี่ยงการใส่เนื้อสัตว์ หรือผักที่มีลักษณะแข็ง อาจเติมเต้าหู้ ไข่ หรือ ปลา ที่ต้มจนเปื่อย
• น้ำซุป: ควรเป็นน้ำซุปใส ไม่ใส่พริก หรือเครื่องเทศ อาจเป็นน้ำซุปผัก หรือ น้ำซุปกระดูกหมู
• นม: นมเย็นๆ จะช่วยลดอาการแสบร้อนในปากได้ อาจเลือกนมรสจืด หรือนมปรุงรส ตามที่เด็กๆ ชอบ
• ไอศกรีม: ไอศกรีมรสชาติอ่อนๆ เช่น วนิลา นม ช็อคโกแลต จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลในปากได้ แต่ควรเลือกรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

เทคนิคการรับประทานอาหาร:

• รับประทานอาหารเย็นๆ: อาหารที่เย็น เช่น ไอศกรีม นมเย็น จะช่วยลดอาการปวด และ แสบร้อน ในปากได้
• ใช้หลอดดูด: การใช้หลอดดูดช่วยลดการสัมผัสของอาหารกับแผลในปาก
• รับประทานอาหารทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง: ช่วยลดการระคายเคืองแผล

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:

• อาหารรสจัด: เช่น อาหารเผ็ด เปรี้ยว เค็ม
• อาหารแข็ง: เช่น ขนมขบเคี้ยว เนื้อสัตว์
• อาหารทอด: อาหารทอดมีไขมันสูง อาจทำให้แผลหายช้า
• ผลไม้รสเปรี้ยว: เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลแผลในปาก

• ดื่มน้ำสะอาด: น้ำจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในช่องปาก และป้องกันภาวะขาดน้ำ
• ประคบเย็น: ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่เป็นแผล จะช่วยลดอาการปวด บวม
• รักษาความสะอาด: แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันขนอ่อนนุ่ม และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก กลับมาอีกครั้ง

นอกจากการดูแลแผลในปากแล้ว การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยกลับมาเป็นโรคมือ เท้า ปาก อีกครั้ง ซึ่งสามารถทำได้โดย

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ นม และ ผักผลไม้
• เสริมพรีไบโอติก: พรีไบโอติก เป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
• พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี
• ออกกำลังกาย: การออกกำลังกาย ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
• รับวัคซีน: วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก (EV71) สามารถช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรไวรัส 71 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมือ เท้า ปาก ที่มีอาการรุนแรงได้

การดูแลแผลในปากอย่างถูกวิธี ควบคู่กับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดอาการเจ็บ ปวด ช่วยให้เด็กๆ กลับมารับประทานอาหารได้ตามปกติ และช่วยป้องกันไม่ให้ลูกน้อยกลับมาเป็นโรคมือ เท้า ปาก อีกครั้ง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ และการเจริญเติบโตโดยรวม หากลูกน้อยมีอาการเจ็บแผลในปาก ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยของคุณสบายตัวขึ้นนะคะ

สั่งซื้อ Eureko Mouth Spray ได้ที่

• Line @genkihouses

Download EBook คู่มือการดูแลลูกเป็นมือเท้าปาก ฟรี ได้ที่ https://t.ly/j8ttu

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์