ดูแลลูกน้อยให้ปลอดภัยในฤดูฝน: เคล็ดลับป้องกันโรคมือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่า
สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคน ฤดูฝนมาเยือนทีไร ก็อดเป็นห่วงสุขภาพลูกน้อยไม่ได้ทุกที เพราะเป็นช่วงที่โรคติดต่อหลายชนิดมักจะระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่า ที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย
เราเข้าใจดีว่าคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลแค่ไหนเมื่อลูกน้อยไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับโรคที่ทำให้ลูกเจ็บปวดและเบื่ออาหาร วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับในการดูแลและป้องกันลูกน้อยจากโรคเหล่านี้ในช่วงฤดูฝนกันค่ะ รับรองว่าทำตามได้ง่ายๆ แถมยังช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัย ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บด้วยนะคะ
ทำความรู้จักกับโรคมือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่า
โรคมือเท้าปาก และ เฮอร์แปงไจน่า เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน โรคทั้งสองชนิดนี้มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอนเทอโรไวรัส ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระ
อาการของโรคมือเท้าปาก ที่สังเกตได้ง่ายคือ มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือแผลในปาก มือ เท้า และบางครั้งอาจพบที่ก้นด้วย ส่วน อาการของเฮอร์แปงไจน่า จะคล้ายกับโรคมือเท้าปาก แต่จะไม่มีผื่นที่มือและเท้า โดยจะมีไข้สูง เจ็บคอ และมีแผลในช่องปากและลำคอ
แม้ว่าโรคทั้งสองชนิดนี้มักจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่ก็อาจทำให้ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัวและเบื่ออาหารได้ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากโรคเหล่านี้ ได้แก่ ภาวะขาดน้ำ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งพบได้น้อยแต่ก็ควรเฝ้าระวัง
เคล็ดลับป้องกันลูกน้อยจากโรคมือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่า
- ล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี
การล้างมือเป็นเกราะป้องกันแรกที่สำคัญที่สุดค่ะ สอนลูกน้อยให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังจากเล่นหรือสัมผัสสิ่งของต่างๆหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
ในช่วงฤดูฝนที่โรคระบาด ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกน้อยไปในสถานที่แออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า สนามเด็กเล่น หรือโรงภาพยนตร์ เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดีเลยค่ะ
- รักษาความสะอาดของใช้ส่วนตัว
ของใช้ส่วนตัวของลูกน้อย เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม ผ้าเช็ดตัว และของเล่น ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคค่ะ
- สวมหน้ากากอนามัย
หากจำเป็นต้องพาลูกน้อยออกไปข้างนอกในช่วงที่โรคระบาด ควรให้ลูกสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางระบบทางเดินหายใจค่ะ
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงคือเกราะป้องกันโรคที่ดีที่สุดค่ะ คุณแม่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง
- ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง
- พาลูกไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้ลูกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น “Immunex FOS” ที่มีส่วนผสมของโพรไบโอติกส์และ FOS เพื่อช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
Immunex FOS ทำงานอย่างไร?
- โพรไบโอติกส์: เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้สุขภาพดีขึ้น โดยจะไปช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
- FOS (ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์): เป็นพรีไบโอติก หรืออาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกส์ ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การรับประทาน Immunex FOS เป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อต่างๆ ได้
- หมั่นสังเกตอาการของลูก
หากลูกน้อยมีอาการไข้สูง เจ็บคอ เบื่ออาหาร หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
- เตรียมพร้อมรับมือเมื่อลูกน้อยป่วย
หากลูกน้อยป่วยเป็นโรคมือเท้าปากหรือเฮอร์แปงไจน่า สิ่งสำคัญคือการดูแลรักษาตามอาการ และบรรเทาความเจ็บปวดให้ลูกน้อย เช่น
- เช็ดตัวลดไข้: ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาเช็ดตัวลูกเบาๆ เพื่อช่วยระบายความร้อน
- ให้ลูกดื่มน้ำมากๆ: เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อลูกมีไข้
- ให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนให้ยาลดไข้แก่ลูก และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ใช้ Eureko Mouth Spray: พ่นบริเวณแผลในปาก เพื่อเคลือบแผล ลดอาการเจ็บ และช่วยให้ลูกทานอาหารได้ง่ายขึ้น
- ให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายของลูกฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- สังเกตอาการผิดปกติ: หากลูกมีอาการซึม อ่อนเพลียมาก ไม่ยอมทานอาหารหรือดื่มน้ำ หรือมีอาการชัก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
- กักตัวเมื่อป่วย
หากลูกน้อยป่วย ควรให้ลูกหยุดเรียนหรือหยุดไปสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นค่ะ
การดูแลลูกน้อยในช่วงฤดูฝนอาจต้องใช้ความใส่ใจและความระมัดระวังมากขึ้น แต่เชื่อว่าด้วยความรักและความเอาใจใส่ของคุณแม่ทุกคน จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงและปลอดภัยค่ะ 😊
อย่าลืม! การป้องกันสำคัญกว่าการรักษา หมั่นดูแลสุขอนามัยของลูกน้อย สังเกตอาการผิดปกติ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อให้ลูกน้อยห่างไกลจากโรคมือเท้าปากและเฮอร์แปงไจน่าในช่วงฤดูฝนนี้ค่ะ